รีวิว ขับรถไปเที่ยวเกาะนามิ: ลอดอุโมงค์ต้นแปะก๊วย ชมใบไม้เปลี่ยนสี กินไก่ทัคคาลบีชื่อดัง

รีวิว เที่ยวเกาะนามิ ลอดอุโมงค์ต้นแปะก๊วย ชมใบไม้เปลี่ยนสี

วันที่ 2 วันนี้เราเช่ารถขับที่เกาหลีเพื่อไปเที่ยวเกาะนามิกัน ได้จองรถเช่ามาจากเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว เช่าทั้งหมด 6 วัน เป็นรถ Kia Sorento 7 ที่นั่ง จริงๆนั่งกัน 5 คน แต่เผื่อที่วางกระเป๋าด้านหลังไว้ด้วยก็เลยเลือกเช่าเป็นรถคันใหญ่หน่อย คล้ายกับรถ CRV แต่ด้านหลังจะยาวกว่า ค่าเช่าทั้งหมดประมาณ 27,000 บาท ตกวันละ 4,500 บาท แต่ถ้าไปกัน 4 คนแล้วเช่าเป็นรถเล็กขับ ราคาจะถูกกว่านี้พอสมควรเลย อันนี้เช่ามาจากเว็บ rentalcars.com แต่ศูนย์เช่ารถที่เกาหลีจะเป็นของ Hertz ซึ่งอยู่เยื้องๆกับ Seoul Station และก็ห่างจากโรงแรมที่ไปพักประมาณ 50 เมตรเท่านั้นเอง

ทางเข้าศูนย์เช่ารถ Hertz

ทางเข้าศูนย์เช่ารถ Hertz

รถที่เช่าหน้าตาประมาณนี้ Kia Sorento

รถที่เช่าหน้าตาประมาณนี้ Kia Sorento

 

นัดรับรถไว้ตอน 7 โมงเช้า ก็เอาใบคอนเฟิร์มที่เราจองรถไว้เข้าไปรับรถด้านในตึก ออฟฟิศอยู่ที่ชั้นล่าง หลังจากยื่นเอกสารรับรถไป คือ ใบจองรถ, พาสปอร์ต, ใบขับขี่สากล, และก็บัตรเครดิตที่ใช้จองรถ เจ้าหน้าที่เช็คเอกสารและทำเรื่องเช่ารถประมาณ 20 นาทีก็ออกมาเช็ครถได้เลย ให้ตรวจดูแบบละเอียดว่ารถคันที่เราเช่านั้นมีรอยชน รอยขูดขีดตรงไหนบ้าง และอย่างลืมเช็คน้ำมันว่าน้ำมันที่เติมเป็นน้ำมันอะไร ที่เปิดถังน้ำมันอยู่ตรงไหน และตอนขากลับเราจะต้องเติมให้เต็มก่อนเอารถมาคืน ไม่อย่างนั้นที่ร้านก็จะคิดค่าน้ำมันเราเพิ่ม ซึ่งแพงกว่าเติมเองเยอะเหมือนกัน จากนั้นก็ให้พนักงานสอนใช้ GPS อันนี้จองไว้เป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ไม่ได้เสียเงินเพิ่ม คือรวมอยู่ในราคาค่าเช่ารถเรียบร้อยแล้ว ที่เกาหลีเราสามารถใส่เบอร์โทรศัพท์ลงไปได้เลย มันก็จะบอกพิกัดที่ที่เราจะได้ให้ ตอนที่เขาสอนใช้ก็เลยเซ็ทจุดหมายแรก คือ เกาะนามิ หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ก็คือ 582-2739 (เบอร์เต็มคือ 031-582-2739 แต่เวลาใส่ในเครื่อง GPS จะใช่แค่ 7 ตัวหลัง) เบอร์นี้เป็นเบอร์แถวที่จอดรถหน้าท่าเรือข้ามฟากไปเกาะนามิ เบอร์พวกนี้ให้เตรียมหาไว้ทำการบ้านไปก่อนเลย

เกาะนามิ – เบอร์โทรศัพท์: 031-582-2739, GPS: 37.80491, 127.52579

หลังจากตั้ง GPS เสร็จก็ออกเดินทางกันเลย ลืมบอกไปว่าที่เกาหลีจะขับคนละด้านกับบ้านเรา ที่เกาหลีคนขับจะอยู่ทางซ้าย พวงมาลัยซ้าย เลนส์ที่รถวิ่งจะก็อยู่ตรงข้ามกับเมืองไทย เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่เคยขับช่วงแรกๆให้ขับช้าๆก่อน ปรับซ้ายขวาให้ชิน แต่ไม่ได้ยากมากอาจจะงงแค่ช่วงแรกๆเท่านั้นเอง เกาะนามิใช่เวลาขับไปประมาณ 1 ชั่วโมง แต่กว่าจะไปถึงจริงๆก็เกือบๆ 2 ชั่วโมง เพราะในโซลขอบอกว่ารถติดมากกกกก กว่าจะหลุดออกมานอกเมืองได้นี่ก็นานมาก แต่หลังจากออกมานอกโซล รถก็โล่งๆ ขับสบายกว่าในเมือง

คลิกดูข้อมูลเกาะนามิและวิธีการเดินทางอื่นๆ

ลาดจอดรถหน้าที่ซื้อตั๋ว

ลาดจอดรถหน้าที่ซื้อตั๋ว

 

พอมาถึงจอดรถเรียบร้อยแล้วก็เดินมาเข้าคิวซื้อตั๋วข้ามเกาะนามิกันเลย แนะนำให้รีบมาแต่เช้าเพราะเกาะนามิช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะมีกรุ๊ปทัวร์มาลงเยอะมาก ยิ่งสายก็ยิ่งเยอะ เดี๋ยวไปที่เกาะแล้วถ้าคนเยอะจะหามุมถ่ายรูปยาก ยิ่งตรงช่วงอุโมงค์แปะก๊วยที่เป็นจุดไฮไลท์ยิ่งเยอะมาก

ค่าเข้าชม: ราคานี้รวมค่าตั๋วเรือไปกลับแล้ว ผู้ใหญ่ 8,000 วอน/ เด็กเล็ก(0-3 ขวบ) 4,000 วอน
(และมีราคาพิเศษสุดสำหรับผู้ที่เดินทางเที่ยวสุดท้าย รอบ 18.10 สำหรับเดือนธันวา-มีนา และ 19.10 สำหรับเดือน เมษาถึงพฤศจิกา จ่ายแค่ 4,000 วอนเท่านั้น)
เวลาเปิด-ปิด: เรือเฟอรี่ข้ามเกาะวิ่งเวลา 07:30-21:40
ที่ซื้อตั๋วข้ามไปเกาะนามิ

ที่ซื้อตั๋วข้ามไปเกาะนามิ

ทางเดินไปที่ท่าเรือ จะมี 2 ช่อง แบ่งเป็นช่องสำหรับกรุ๊ปทัวร์กับช่องของคนที่ไปเอง ตรงโซนนี้ไม่ต้องต่อแถว สามารถเดินเข้าไปได้เลย แต่ว่าต้องไปรอคิวตรงท่าเรือซึ่งไม่นานมากประมาณ เรือมารับทุกๆ 5-10 นาที

ทางเดินขึ้นเรือข้ามฟาก

ทางเดินขึ้นเรือข้ามฟาก

ตอนนี้อยู่บนเรือแล้วกำลังข้ามไปอีกฝั่ง บนเรือมี 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็นห้องกระจก ส่วนด้านบนเปิดโล่ง ซึ่งจะไม่มีที่นั่งทั้ง 2 ชั้น ถ้าขึ้นไปบนเรือแล้วแนะนำให้ขึ้นไปยืนด้านบนวิวจะสวยกว่า อากาศดีกว่า

เรือกข้ามฟากเกาะนามิ

วิวรอบด้านระหว่างอยู่บนเรือข้ามฟากไปเกาะนามิ

ถ้ามองจากเรือก็จะเห็นมีคนโรยตัวจากหอสูง Zip-wire ข้ามไปที่เกาะนามิด้วย หอนี้จะอยู่ใกล้กับที่ซื้อตั๋วเมื่อกี้นี้ ถ้าใครอยากได้ประสบการณ์ผจญภัยแบบ Adventure ก็ลองดูได้ ดูแล้วน่าสนุกดีเหมือนกัน

โรยตัวข้ามเกาะ

โรยตัวข้ามเกาะ

หอโรยตัวข้ามไปเกาะนามิ

หอโรยตัว Zip-wire ข้ามไปเกาะนามิ

เกาหลี-นามิ-5

ท่าเรือบนเกาะนามิ

มาดูแผนที่เกาะนามิกันก่อน เส้นทางเดินเที่ยวบนเกาะนามิ พอนั่งเรื่อข้ามไปจุดจอดเรือจะไปอยู่ทางด้ายซ้ายมือของแผนที่ ทริปนี้เราจะเดินไปตามเส้นสีแดงในแผนที่ด้านล่าง เส้นทางหลักของเกาะนามินั้นคือเส้นซึ่งเป็นเส้นทางขาไปที่เราจะเดินกัน ส่วนขากลับเราจะอ้อมไปอีกทาง โหลดแผนที่เกาะนามิแบบขนายได้ที่นี่ จุดที่มีไอคอนคือจุดไฮไลท์ที่จะแวะกัน

map_nami_island

แผนที่เดินเที่ยวเกาะนามิ

พอมาถึงเกาะแล้วก็เดินตามเส้นสีแดงตรงกลางตามแผนที่ด้านบนเลย ตามมาดูบรรยากาศในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีกัน

เกาหลี-นามิ-6

ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มต้นแล้ว

เกาหลี-นามิ-7

จุดถ่ายรูปยอดฮิตอีกจุดนึง เอาใบเมเปิ้ลมากองเป็นรูปหัวใจ น่ารักฟรุ๊งฟริ๊ง

เกาหลี-นามิ-8

เริ่มเห็นใบแปะก๊วยกันแล้ว

เกาหลี-นามิ-9

มีรถรางให้นั่งด้วยนะ วนรอบเกาะเลย

เกาหลี-นามิ-10

สระน้ำพุ

เกาหลี-นามิ-11

สระน้ำด้านบนของเกาะ ใกล้ๆกับเส้นทางเดินริมน้ำ

เกาหลี-นามิ-12

ใบแดงเหลืองสลับกันเลย

เกาหลี-นามิ-13

ต้นแปะก๊วย หรือ ต้น Gingo

เกาหลี-นามิ-14

ใบเมเปิ้ลสีส้มก็สวย บรรยากาศดี๊ดี นั่งชิวๆริมน้ำ

เกาหลี-นามิ-15

กระรอกน้อยบนต้นเมเปิ้ล

จุดแรกที่แวะคือ “Winter Sonata’s First Kiss” ตามรอยซีรีย์  Winter Sonata เพลงรักในสายลมหนาว หรือ Winter Love Song พอเดินตามเส้นหลักตรงกลางมาซักระยะ ก็จะมีทางแยกซ้ายออกไป เดินไปเรื่อยๆจนถึงริมน้ำ ก็จะเป็นกระท่อมทรงโบราณตั้งอยู่ 3-4 หลัง และจุดถ่ายรูปก็จะอยู่ตรงปลายทาง มีโต๊ะไม้เป็นสถานที่ที่เขาถ่ายทำซีรีย์กัน

กระท่อมเกาหลีโบราณ

กระท่อมเกาหลีโบราณ

กระท่อมเกาหลีโบราณกับใบไม้แดง

กระท่อมเกาหลีโบราณกับใบไม้แดง

อีกมุมของทางรถราง มีต้นแปะก๋วยเขียวสลับเหลือง ยังไม่เปลี่ยนสีแต็มที่ แต่ก็สวยไปอีกแบบ

เกาหลี-นามิ-18

เส้นทางรถไฟ

จากนั้นก็เดินย้อนกลับมาทางหลัก เดินตรงไปเรื่อยๆก็จะพบกันโซนอาหาร ถ้าใครหิวก็แวะซื้อขนมหรือของกินทานก่อนได้ มีทั้งร้านอาหารแบบจริงจัง, ร้านของปิ้งย่าง และซาลาเปานึงเตาถ่านแบบโบราณ

เกาหลี-นามิ-19

โซนขายอาหาร

เกาหลี-นามิ-20

ซาลาเปาเตาถ่านโบราณ

พอหมดโซนอาหารก็จะถึงจุด Highlight ของเกาะนามิกันแล้ว นั่นก็คืออุโมงค์ต้นแปะก๊วย “Ginkgo Tree Lane” วันที่ไปนี้เป็นช่วงพีคพอดีเลย ใบแปะก๊วยเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองทั้งหมด สวยสุดๆ คนจะค่อนข้างเยอะถึงเยอะมาก แนะนำให้หามุมเอาไว้ก่อน แล้วยืนรอสักแป๊ปนึง พอมีช่วงที่คนน้อยหน่อยก็โพสท่าถ่ายเลย

เกาหลี-นามิ-21

ต้นแปะก๊วยกับใบสีเหลืองทอง

เกาหลี-นามิ-22

“Ginkgo Tree Lane”

เกาหลี-นามิ-23

ด้านข้างของ “Ginkgo Tree Lane” คนจะไม่เยอะมาก

เกาหลี-นามิ-24

อีกมุมของ “Ginkgo Tree Lane”

เกาหลี-นามิ-25

สีสวยมาก ฟินสุดๆ

เกาหลี-นามิ-26

ต้นนี้กำลังจะเปลี่ยนจากเขียวเป็นเหลือง

เกาหลี-นามิ-31

“Ginkgo Tree Lane”

จากนั้นก็เดินตรงไปจนสุดทางของเส้น “Ginkgo Tree Lane” จะเป็นโซนบ้านพัก บริเวณนี้จะอยู่ริมน้ำ มีต้นเมเปิ้ลใบเปลี่ยนเป็นสีแดงกำลังพีคเลย จริงๆเส้นนี้ก็สามารถเดินย้อนกลับไปทางท่าเรือได้เหมือนกัน ถ้าใครมีเวลาและชอบเดินริมน้ำ จะเลือกเดินกลับเส้นนี้ก็ได้

เกาหลี-นามิ-27

ทางเดินริมน้ำกับใบเมเปิ้ล

เกาหลี-นามิ-28

สีแดงทั้งต้นเลย งามเว่อร์มาก

เกาหลี-นามิ-29

ต้นเมเปิ้ลกับวิวแม่น้ำ

เกาหลี-นามิ-30

บ้านพักบนเกาะนามิ

เกาหลี-นามิ-32

ด้านข้างของ “Ginkgo Tree Lane” จะเห็นต้นแปะก๊วยขึ้นเรียงแถวกันอยู่

มาต่อกันที่จุดต่อไปกันเลย เป็นอีกหนึ่งอุโมงค์ที่อยู่ใกล้ๆกัน คืออุโมงค์ทิวสนที่ตั้งเรียงตัวกันเป็นแนวยาว 
เกาหลี-นามิ-33

พอเดินไปจนสุดทางของแนวทิวสน ให้เลี้ยวซ้ายไปตามแผนที่ จะพบกับสัญลักษณ์ของเกาะนามิที่โด่งดัง คือ รูปปั้นคู่พระนางจากเรื่องเพลงรักในสายลมหนาว Winter Sonata Statue 
เกาหลี-นามิ-34

เกาหลี-นามิ-35

เกาหลี-นามิ-36

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาหลี

ระหว่างทางเดินกลับไปที่ท่าเรือ จะเป็นโซนของใบไม้แดง สวนต้นเมเปิ้ล

เกาหลี-นามิ-37

ถ่ายใบเมเปิ้ลมุมเงยก็โรแมนติคดี

เกาหลี-นามิ-38

แปะก๊วย ต้นนี้เด่นมากและใหญ่มากด้วย

เดินชมบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีมาเรื่อยๆ ตอนนี้หิวมากแล้ว รอข้ามเรือไปกินไก่ทัคคาลลีตรงแถวที่จอดรถ ที่ท่าเรือคนก็ยังเยอะเหมือนเดิม

เกาหลี-นามิ-39

ท่าเรือบนเกาะนามิ

พอลงเรือเสร็จก็เดินมากินข้าวเที่ยงกันตอนบ่าย 2 ที่ร้านนี้เลยแล้วกัน มาที่นามิก็ต้องมากินกิน “ไก่ทัคคาลบี” เรียกว่าเป็นเมนูขึ้นชื่อห้ามพลาดของที่นี่

เกาหลี-นามิ-ไก่

ร้านไก่ทัคคาลบี

มาแล้ว “ไก่ทัคคาลบี” เสริฟมาทั้งกะทะแบบในรูปเลย แล้วพนักงานที่ร้านเขาจะมาผัดให้ ขอบอกว่าใช้เวลาค่อนข้างนาน น่าจะประมาณ 20-30 นาทีได้ กว่าไก่จะสุกแล้วเข้าเนื้อ ทานกับผักกาด และก็ของดองของเกาหลี ไก่เนื้อนุ่ม รสชาติเข้มข้นอร่อยมาก

เกาหลี-นามิ-40

ไก่ทัคคาลบีก่อนผัด

เกาหลี-นามิ-41

ผัดจนสุกแล้ว เตรียมกินได้เลย

จากนั้นก็มุ่งตรงไปยังเมืองซกโช Sokcho คืนนี้เราจะนอนกันที่เมืองนี้ เพื่อที่วันรุ่งขึ้นจะไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติซอรัคซาน ปักหมุดไปที่โรงแรมเลย HJ House Hotel: Tel. 033-632-8606, GPS 38.19208, 128.60079

เมืองซกโชเป็นเมืองติดชายทะเล อยู่ใกล้กับซอรัคซาน ดังนั้นเลยเป็นเมืองแวะพักสำหรับนักท่องเที่ยวก่อนที่จะขึ้นอุทยานแห่งชาติซอรัคซาน ในตัวเมืองก็มีที่เที่ยวน่าสนใจหลายที่ ที่นิยมไปเที่ยวกันก็คือ ตลาดปลาดงเมียง – Dongmyeong Raw Fish Market และ ศาลาริมน้ำ – Yeonggeumjeong Sunrise Pavillion 

จากเกาะนามิขับมาที่เมืองซกโชใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ พอมาถึงที่นี่ก็ประมาณ 6 โมงเย็นได้ เอาของไปเก็บที่โรงแรมเสร็จก็หิวกันแล้ว มื้อค่ำคืนนี้ก่อนมาลองหาในเน็ตดู มีคนแนะนำร้านหมูกะทะเกาหลี เป็นแบบบุฟเฟ่ด้วย กินได้เต็มที่เลย พิกัดของร้าน 033-636-9590, 38.211698, 128.594844 ราคาต่อคน 1,1000 วอน (เหมือนราคาจะขึ้น ที่ดูในเน็ตมันประมาณคนละ 8,000 วอน) ที่จอดรถของที่ร้านไม่มี ต้องจอดริมถนนฝั่งตรงข้ามร้านเอาแล้วเดินข้ามถนนไป จริงๆจะมีหลายร้านตั้งเรียงกันอยู่ ทั้งร้านปิ้งย่างและก็ร้านอาหารทะเล สามารถเดินเลือกได้ตามใจชอบ

ร้านไม่ใหญ่มาก มีโต๊ะประมาณ 7-8 ตัว พอไปถึงเขาก็ถามเลยว่าเป็นคนไทยรึป่าว พาไปนั่งที่โต๊ะและก็เอาของมาเสิร์ฟ มีพาไปแนะนำเนื้อต่างๆด้วยว่ามีอะไรบ้าง อ่อ มีงูทะเลด้วยนะ ใครอยากชิมของแปลกก็ลองได้ ของที่มีให้ตักก็คล้ายๆกับหมูกะทะบ้านเรา คือมีวางไว้ให้ในตู้ และก็เดินไปหยิบได้ตามใจชอบ ดูจากเนื้อหมู เนื้อวัวที่มีให้ตักแล้ว ดูเหมือนเขาจะไม่ได้หมักซอสอะไรเลย พอเอามาลองย่างดูก็จืดจริงอย่างที่คิดเลย แบบว่าเพลนมากๆ สรุปว่ามื้อนี้ไม่ค่อยถูกปากซักเท่าไหร่ แต่คนเกาหลีเขาอาจจะกินรสชาติประมาณนี้ก็ได้ เพราะเห็นโต๊ะข้างๆที่เป็นคนเกาหลีเขาตักมากินกันเยอะมาก

เกาหลี-นามิ-48

หมูกะทะเกาหลี

โปรแกรมวันนี้ยังไม่จบ เราจะไปเดินย่อยกันที่ตลาดปลาและก็ศาลาริมน้ำ 2 ที่นี้อยู่ติดกัน พิกัดก็ตามนี้เลย 033-637-4477, 38.20429, 128.59015 (ที่บอกตำแหน่ง GPS ไว้ด้วยเพราะบางที Navigation บนรถพอใส่เบอร์โทรศัพท์ไปแล้วก็หาตำแหน่งไม่เจอ ก็ต้องกด GPS ที่มือถือเอาแทน แล้วขับตามมือถือไป)

และก็มาถึงตลาดปลาดงเมียง – Dongmyeong Raw Fish เป็นเหมือนตลาดขายของทะเลสด ด้านล่างจะเป็นร้านขายปลา ส่วนด้านบนเป็นที่นั่งกินอาหาร ก็คือเลือกของทะเลจากด้านล่าง แล้วก็สั่งเขาทำเป็นอาหารแล้วขึ้นไปนั่งกินด้านบนตลาดได้

ตลาดปลาดงเมียง - Dongmyeong Raw Fish Market

ตลาดปลาดงเมียง – Dongmyeong Raw Fish Market

ตลาดปลาดงเมียง - Dongmyeong Raw Fish Market

ชั้นล่างขายของทะเลสดๆ ส่วนด้านบนที่เป็นนั่งกิน

 

เดินต่อมาอีกนิดนึงก็ถึง ศาลาริมน้ำ – Yeonggeumjeong Sunrise Pavillion  ตั้งใจมาถ่ายไฟตอนกลางคืนที่นี่เพราะเขาจะเปิดไฟที่สะพานและศาลาริมน้ำด้วย เดินซักพักอากาศก็เริ่มเย็น พอถ่ายรูปเสร็จก็กลับโรงแรม

ศาลาริมน้ำ - Yeonggeumjeong Sunrise Pavillion

ศาลาริมน้ำ – Yeonggeumjeong Sunrise Pavillion

แสงสีที่สะพาน

แสงสีที่สะพาน

เกาหลี-นามิ-46

แสงสียามค่ำคืนของเมืองซกโช

เกาหลี-นามิ-47

แสงสียามค่ำคืนของเมืองซกโช

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

เรื่องท่องเที่ยวเกาหลีที่กำลังฮิต