รีวิวเที่ยวซอรัคซาน, ไหว้พระวัด Sinheungsa, ปีนยอดเขา Ulsanbawi Rock

รีวิวเที่ยวซอรัคซาน

ก่อนไปเที่ยวซอรัคซาน แวะมาเก็บภาพที่ศาลาริมน้ำยองกึมจอง Yeonggeumjeong Sunrise Pavilion ของเมืองซกโช(Sokcho-si)กันก่อน ที่เดียวกับที่มาถ่ายไฟเมื่อคืนนี้นั่นแหล่ค่ะ ศาลายองกึมจองนี้เป็นจุดชมวิวที่ชาวเกาหลีนิยมมารอชมพระอาทิตย์แสงแรกของปีกัน ในทุกวันที่ 1 มกราคม เช้านี้ตั้งใจมาถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นและเก็บภาพบรรยากาศตอนเช้าตรู่

พอมาถึงก็ยังไม่สว่างค่ะ เวลาประมาณ 6 โมงครึ่ง อากาศค่อนข้างเย็นและก็มีลมจากทะเลพัดเข้ามาด้วย หนาวอยู่เหมือนกัน เดินถ่ายวิวรอบๆรอพระอาทิตย์ขึ้นกันไปก่อน เห็นมีคนเกาหลีค่อยๆทยอยมากันเรื่อยๆ มีทั้งมาเป็นกรุ๊ปแบกกล้องตัวใหญ่ตั้งใจมาถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นเหมือนกันกับเรา หรือบางคนก็มารอชมพระอาทิตย์ขึ้นเฉยๆ แต่วันนี้เหมือนฟ้าจะปิดค่ะ มีเมฆและหมอกเยอะมาก สรุปว่ามองไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้น เสียดายมาก ถ้ามาหน้าหนาวคงจะเห็นดวงโตๆเลย

เกาหลี-1-ซกโช

ยังไม่สว่างค่ะ มารอตั้งแต่เช้าเลย

เกาหลี-2-ซกโช

พระอาทิตย์น่าจะขึ้นไปแล้ว แต่มองไม่เห็นเพราะเมฆเยอะมาก

 

แล้วมุ่งหน้าไปอุทยานแห่งชาติซอรัคซาน(Seoraksan) กันเลยดีกว่า เดี๋ยวไปถึงสายแล้วคนจะเยอะ จากเมืองซกโชขับรถไปประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้วอยู่ใกล้ๆเลย ไปถึงรู้สึกว่าคนเริ่มจะเยอะแล้วเหมือนกัน มีทั้งที่มาเที่ยวกันเองและก็มากับกรุ๊ปทัวร์ ตอนที่ไปนี้หุบเขาซอรัคซานเป็นช่วงพีคของใบไม้เปลี่ยนสีพอดีเลย คนก็เลยมาเที่ยวกันค่อนข้างเยอะ

ค่าเข้าซอรัคซาน: ผู้ใหญ่ 3,500 วอน, เด็ก(อายุ 14-19) 1,000 วอน, เด็ก(อายุ 8-13) 500 วอน
พิกัดซอรัคซาน
: Tel. 033-636-7101, GPS 38.174078, 128.488375
ค่าจอดรถ: รถเล็ก 2,000 วอน, รถใหญ่ 4,000 วอน

ที่จอดรถซอรัคซาน

ที่จอดรถซอรัคซาน

ก่อนไปเกาหลีก็ได้หาข้อมูลไปก่อนแล้วว่าจะเที่ยวที่ไหนบนซอรัคซานบ้าง กะว่าจะเที่ยวบนซอรัคซานทั้งวัน แล้วตอนเย็นก็ค่อยขับรถไปโรงแรมก็เลยเลือกโปรแกรมตามนี้

โปรแกรมที่ตั้งไว้วันนี้ก็คือ ขึ้นกระเช้าไปยอดเขา Gwongeumseong Fortress (1.5 km) -> ไหว้พระใหญ่วัด Sinheungsa Temple -> กินข้าวเที่ยงแถวๆนั้น -> ปีนยอดเขา Ulsanbawi Rock (3.8km) 

จริงๆแล้วเส้นทางเดินเขาของซอรัคซานนั้นมีเยอะมาก หลายสิบเส้นทางเลย แต่ที่เลือกมาก็ดูเหมือนจะเป็น Hilight ของที่นี่ ที่คนเขานิยมไปปีนเขากัน ซึ่งแต่ละเส้นทางก็จะมีระดับความชัน, ระยะทาง, และเวลาที่ใช้เดินบอกไว้คราวๆ ระยะทางมีให้เลือกตั้งแต่ 1.5 กิโล ถึง 20 กว่ากิโลเลยก็มี

เกาหลี-3-ซอรัคซาน

ใบไม้เปลี่ยนสีกับฉากหลังเป็นภูเขาสวยงามมาก

 

พอมาถึงด้วยความที่อากาศด้านบนซอรัคซานค่อนข้างหนาว และก็ยังเช้าอยู่ด้วยประมาณ 9 โมงได้ เดินผ่านหน้าร้านกาแฟก็เลยตัดสินใจเข้าไปนั่งดื่มกาแฟแก้หนาวแก้ง่วงกันก่อน ร้านแต่งน่ารักดี เข้ากับบรรยากาศแบบภูเขาเลย เพราะใช้ไม้สนธรรมชาติมาแต่งร้าน

เกาหลี-4-ซอรัคซาน

ด้านหน้าร้าน ตกแต่งด้วยไม้สนทั้งหมด

เกาหลี-5-ซอรัคซาน

ด้านในร้านก็สวยไม่แพ้กัน เป็นไม้สนทั้งหลังเลย

เกาหลี-6-ซอรัคซาน

ร้านอื่นๆ มีทั้งขายอาหาร ขายขนม

 

หลังดื่มกาแฟกันเสร็จก็รู้สึกว่าจะอุ่นขึ้นมาหน่อย พร้อมออกไปปีนเขาแรกกันแล้ว ยอดเขา Gwongeumseong Fortress มีกระเช้าให้ขึ้นไปด้านบนค่ะ ไม่ต้องเดินขึ้นไปตั้งแต่ด้านล่าง แต่พอขึ้นไปแล้วก็ต้องเดินต่อเพื่อไปยังยอดเขาอีกที

พอไปถึงที่ซื้อกระเช้าก็นึกดีใจว่าคนไม่เยอะมาก ไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วเลยค่ะ ปรากฎว่าเขาให้ขึ้นเป็นรอบๆ ไปซื้อตอน 9 โมงครึ่ง ได้ตั๋วรอบ 11 โมงครึ่ง ต้องรอประมาณ 2 ชั่วโมงแหน่ะกว่าจะได้ขึ้น ถ้าใครจะขึ้นกระเช้าแนะนำให้ไปถึงแล้วรีบไปซื้อตั๋วไว้ก่อนเลย แล้วค่อยไปหาที่นั่งดื่มกาแฟรอหรือเดินเล่นรอจะได้ไม่เสียเวลา เพราะคนค่อนข้างเยอะ

ค่าขึ้นกระเช้า Cable car (ตั๋วไป-กลับ)
ผู้ใหญ่ 10,000 วอน / เด็ก 6,000 วอน

 

เกาหลี-13-ซอรัคซาน

ที่ขายตั๋วขึ้น Cable car ไปยอดเขา Gwongeumseong Fortress

 

พอได้ตั๋วมาแล้วต้องรอขึ้นกระเช้าอีกประมาณ 2 ชั่วโมงเลยต้องเปลี่ยนแผน ไปเดินเที่ยววัดชินฮึงซา(Sinheungsa Temple) กันก่อน อยู่เลยที่ขึ้นกระเช้าไปนิดนึง เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่บนเขาซอรัคซาน ด้านหลังองค์พระเป็นภูเขาซึ่งตอนที่มาใบไม้เปลี่ยนสีสลับเขียว ส้ม แดงพอดี และบริเวณรอบๆวัดก็มีต้นเมเปิ้ล ใบเป็นสีส้มทั้งต้นสีสดมาก ถ่ายตรงไหนก็ส้มไปหมดเลย

เกาหลี-7-ซอรัคซาน

พระใหญ่วัด Sinheungsa Temple

เกาหลี-8-ซอรัคซาน

ต้นเมเปิ้ลบริเวณวัด

เกาหลี-9-ซอรัคซาน

Closed-up ใกล้ๆเห็นใบชัดดูบ้าง

 

เดินเลยวัดมานิดนึงจะมีสะพานข้ามลำธาร แวะถ่ายรูปมุมนี้ก็สวยดีเหมือนกัน แต่ตอนนี้น้ำในลำธารแห้งเกือบหมดแล้ว เห็นเป็นก้อนหินแทน อีกฝั่งนึงเป็นร้านกาแฟค่ะ (ตรงที่เห็นเป็นหลังคาบ้านแบบเกาหลีในรูป) ด้านในร้านตกแต่งน่ารักดี ใช้ไม้สนคล้ายกับร้านแรกที่แวะเลยแต่มีของตกแต่งน่ารักๆเยอะกว้า ที่ซอรัคซานช่วงนี้เส้นทางเดินเส้นทางเดือนเกือบทั้งหมดใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ถ้าต้นไหนแดงก็จะแดงเต็มที่ ส้มเต็มที่เลย ไม่ผิดหวังเลยที่มาช่วงนี้ (ไปวันที่ 23 ตุลาคม 2015)

เกาหลี-10-ซอรัคซาน

สะพานข้ามลำธาร

เกาหลี-11-ซอรัคซาน

แผนที่เส้นทางเดินเขา มีบอกความชันไว้ด้วยค่ะ

เกาหลี-12-ซอรัคซาน

เปลี่ยนสีแบบพีคสุดๆเลย

 

หลังจากเดินเตร็ดเตร่ไปมาซักพัก ก็ครบ 2 ชั่วโมงละ ถึงเวลาไปขึ้นกระเช้ากันแล้ว ตอนตั๋ว Cable Car เขาจะระบุเวลาเอาไว้เลยว่าให้ขึ้นกี่โมง พอใกล้ๆเวลาเขาก็จะเรียกให้ไปยืนรอเข้าขึ้นกระเช้า รอบนึงจะห่างกันประมาณ 5 นาที ขนาดห่างกันรอบละ 5 นาที ยังรอคิวนานขนาดนี้เลย ข้างบนที่กำลังจะขึ้นไปนี่สงสัยจะคนเยอะมากถึงมากที่สุดแน่ๆ

เกาหลี-14-ซอรัคซาน

Cable car ขึ้นไปบนยอดเขา Gwongeumseong Fortress

เกาหลี-15-ซอรัคซาน

ขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว วิวก็สวยสมคำล่ำลือ

ขึ้นมาถึงด้านบนกันแล้ว ตรงจุดจอดกระเช้าเป็นเหมือนจุดแวะพัก คือมีร้ายขายเครื่องดื่ม, ของกินและก็ขนม ที่เห็นคนกินกันเยอะมากก็คือขนมของร้านนี้ เป็นเหมือนแป้งทอด มีไส้ด้านในเป็นน้ำตาล ทอดจนข้างนอกกรอบ แล้วก็กินกันร้อนๆ ลองชิมแล้วก็อร่อยดีเหมือนกัน แต่ใส่ไส้มาน้อยไปหน่อย ไม่งั้นคงอร่อยกว่านี้

ขนมแป้งไส้น้ำตาล

ขนมแป้งทอดไส้น้ำตาล

ที่เห็นเป็นสีเข้มๆตรงกลางก็คือไส้ที่ทำจากน้ำตาลนั่นเอง

ที่เห็นเป็นสีเข้มๆตรงกลางก็คือไส้ที่ทำจากน้ำตาลนั่นเอง

จากจุดจอดกระเช้าก็ต้องเดินต่อเพื่อไปยังยอดเขา ดูจากในภาพก็คงจะเห็นว่าคนเยอะแค่ไหน เวลาเดินก็เดิมตามกันไปเรื่อยๆ ทางส่วนใหญ่เป็นบันไดให้เดิน ทำไว้ค่อนข้างดีเลยหล่ะ เส้นทางนี้เดินไม่ยากและก็ไม่ชันเท่าไหร่ วิวจากด้านบนนี้สวยมากมองเห็นเป็นภูเขาสลับซับซ้อน และยอดต้นไม้สีส้มตัดกับต้นสนสีเขียว สามารถถ่ายรูปแบบพาโนราม่าได้เลย

เกาหลี-17-ซอรัคซาน

วิวตึกจอดกระเช้า

เกาหลี-18-ซอรัคซาน

ทางเดินไปยอดเขา

 

เดินมาซักพักไม่ไกลมาก็ถึงยอดเขา Gwongeumseong Fortress  แล้ว จากจุดนี้จะไม่มีบันไดหรือทางเดินให้เดินขึ้นไปแล้ว ต้องปีนขึ้นไปอย่างเดียว คนที่เดินขึ้นไปต่อจะน้อยกว่าที่เดินมาเมื่อสักครู่นี้ แต่ก็ยังถือว่าเยอะอยู่ดี ใครที่ไม่ปีนขึ้นบนยอดเขาก็ถ่ายรูปตรงจุดนี้ได้เหมือนกัน เพราะวิวค่อนข้างสวย

เกาหลี-19-ซอรัคซาน

หลังจากเดินไปไม่ไกลก็มาถึงแล้ว ยอดเขา Gwongeumseong Fortress

เดินไต่หินขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าดูจากในรูปจะเห็นจุดบนสุดของยอดเขามีธงเกาหลีปักอยู่ เราจะปีนขึ้นไปบนนั้นกัน ซึ่งทางจะชันมากตรงใกล้จะถึงยอดเขา ระยะทางไม่ไกลเลยแต่ทางจะค่อนข้างแคบ บางช่วงไม่สามารถเดินสวนกันได้ต้องให้คนที่จะลงจากยอดเขาไต่ลงมาก่อน แล้วเราถึงจะขึ้นไปได้ บางช่วงก็จะมีเชือกให้จับดึงตัวเองขึ้นไป

เกาหลี-22-ซอรัคซาน

เริ่มออกปีนขึ้นสู่ยอดเขา

 

ค่อยๆปีนมาเรื่อยๆก็มาถึงยอดเขาจนได้ มีขายของที่ระลึกว่าเราได้พิชิตยอดเขานี้แล้ว ด้านบนแทบจะไม่มีพื้นที่ราบให้ยืนสักเท่าไหร่ มีแค่เท่าที่เห็นในภาพแค่นั้นเอง ส่วนใหญ่ต้องนั่งหรือยืนบนโขดหินเอา ที่สำคัญไม่มีราวเหล็กกันตก ถ้าขึ้นไปแล้วก็ต้องเดินระวังกันหน่อยเดี๋ยวจะลื่นตกลงไป

เกาหลี-21-ซอรัคซาน

ด้านบนยอดเขา

เกาหลี-20-ซอรัคซาน

วิวบนยอดเขา Gwongeumseong Fortress

 

พอลงจากยอดเขาแล้วก็เดินกลับไปที่ตึกเดิมเพื่อลง Cable Car ไปด้านล่าง ขาลงไม่มีเวลาระบุไว้เหมือนขาขึ้น ให้ยืนต่อคิวขึ้นกระเช้าได้เลย ตอนเข้าไปในตู้กระเช้าแนะนำให้ยืนฝั่งด้านหน้าซ้ายมือของกระเช้า จะมองเห็นวิวของวัด Sinheungsa Temple จากมุมสูงได้พอดี

เกาหลี-23-ซอรัคซาน

Cable car ขึ้นมารับแล้ว

เกาหลี-24-ซอรัคซาน

วิวของวัด Sinheungsa Temple จากมุมสูง

 

ลงมาถึงก็มื้อเที่ยงพอดี เที่ยงนี้กินพิซซ่าเกาหลี หรือภาษาเกาหลีเรียกว่า “พาจอน Pajeon” จิ้มกินกับน้ำจิ้มงาสีน้ำตาลแบบในรูป ดูคล้ายๆกับโอโคโนมิยากิของญี่ปุ่นแต่เครื่องที่ใส่จะคนละแบบ ที่เกาหลีจะเป็นปลาหมึกกับต้นหอมและแป้ง รสชาติก็พอกินได้ไม่ถึงกับอร่อยมาก กินของคาวเสร็จก็ต่อกันด้วยของหวานขนมถั่วแดงต้มที่ร้านกาแฟเมื่อเช้านี้กินกับไอติมซอฟครีม

พิซซ่าเกาหลีพาจอน Pajeon

พิซซ่าเกาหลีพาจอน Pajeon

ถั่วแดงต้มกินกับซอฟครีม

ถั่วแดงต้มกินกับซอฟครีม

 

อิ่มกันแล้วก็มีแรงเดินต่อไปยังจุดหมายต่อไป ยอดเขา Ulsanbawi Rock เดินไปกลับก็ระยะทางทั้งหมดเกือบ 8 กิโล

▲ Ulsanbawi Rock (2hrs, 3.8km): Sogongwon (소공원) → Sinheungsa Temple (신흥사) → Heundeulbawi Rock/Gyejoam (흔들바위/계조암) → Ulsanbawi Rock (울산바위)

จากจุดลงกระเช้าก็ให้เดินไปทางวัด Sinheungsa Temple จากนั้นก็เดินขึ้นเขาไปประมาณ 2.1 กิโลเมตร ช่วงตรงนี้ยังไม่ค่อยชันมาก และก็จะถึง Heundeulbawi Rock จากนั้นอีก 1 กิโลเมตรสุดท้ายจะเป็นทางชันระดับ Advance ความชันอยู่ที่ 30% เส้นทางเดินเขาที่เกาหลีเขาทำไว้ค่อยข้างดี มีข้อมูลบอกหมดว่าระดับความยากง่ายแค่ไหน ระยะทางเท่าไหร่ ซึ่งทำให้เราสามารถเลือกเส้นทางได้ง่่ายขึ้น

แผนที่เส้นทางเดิน Ulsanbawi Rock

แผนที่เส้นทางเดิน Ulsanbawi Rock

ระดับความชันของ Ulsanbawi Rock

ระดับความชันของ Ulsanbawi Rock

 

อย่ารอช้า ศึกษาเส้นทางเสร็จแล้วก็เริ่มเดินกันเลย ทางช่วงแรกเดินง่ายมาก เป็นทางลาดๆไม่ชันและทำทางเดินไว้อย่างดี ตรงส่วนที่เป็นทางขึ้นเนินทางอุทยานเขาก็ทำบันไดไว้ให้

เกาหลี-25-ซอรัคซาน

เริ่มต้นเดินเส้นทางยอดเขา Ulsanbawi Rock

เกาหลี-26-ซอรัคซาน

เดินเรียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ ชมใบไม้เปลี่ยนสีสองข้างทาง

เกาหลี-27-ซอรัคซาน

ผ่านวัดต่างๆ

เกาหลี-28-ซอรัคซาน

เดินมาเจอป้ายบอกทาง ไปยอดเขาอีก 2.4 กิโล แปลว่าเดินมาได้ 1 ใน 3 แล้ว

เกาหลี-29-ซอรัคซาน

ทำสะพานไว้ให้เดินด้วย ไม่ต้องปีนเขาเลย

เกาหลี-30-ซอรัคซาน

ใบไม้เปลี่ยนสีสวยจริงๆ

เกาหลี-31-ซอรัคซาน

สะพานหินข้ามลำธารเล็กๆ

เดินมาตั้งนานเพิ่งจะเห็นยอดเขา  Ulsanbawi Rock เราจะขึ้นไปบนยอดนั้นกัน ดูจากในรูปเหมือนจะอยู่ไกลมาก ไม่น่าเชื่อว่าระยะทางไม่ถึง 4 กิโล แต่ก็ยังไม่ถอดใจเพราะตอนที่ไปเดินนั้นไม่รู้ว่ายอดที่จะไปมันคือยอดนี้ เพราะดูแล้วเหมือนอยู่ไกลกันหลายสิบกิโล ถ้ารู้ก่อนล่วงหน้าสงสัยจะเดินกลับตั้งแต่ตอนนี้แล้วแหล่ะ

เกาหลี-32-ซอรัคซาน

เริ่มมองเห็นยอดเขา Ulsanbawi Rock แล้ว

แล้วก็เดินต่อกันไปเรื่อยๆ ผ่านวัดบ้าง, ทางเดินป่าบ้าง แล้วทางก็เริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ เป็นทั้งทางปีนเขาสลับกับบันได แต่วิวต้นไม้สองข้างทางสวยตลอด ทำให้เพลินไปกับการถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสี ไม่เบื่อเลย มีทั้งต้นเมเปิ้ลสีแดงสด สีส้ม สีเหลือง พวกต้นเมเปิ้ลจะไม่สูงมากขึ้นสลับกับต้นไม้ใหญ่ที่ใบยังเป็นสีเขียวอยู่ ถ้าใครมาเที่ยวซอรัคซานต้องมาช่วงนี้เลย มาชมใบไม้เปลี่ยนสีก็คุ้มแล้ว ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ

และแล้วก็มาถึง Heundeul Bawi Rock  จุดนี้จะมีโขดหินก้อนใหญ่ทรงเกือบกลมตั้งอยู่บนฐานหิน แต่ไม่มีอะไรมาค้ำยันเลย จึงเป็นที่น่าแปลกว่าหินก้อนนี้ไม่ล่วงลงไปและยังคนตั้งอยู่ได้แม้จะโดนฝนโดนลมแรง

Heundeul Bawi Rock

Heundeul Bawi Rock

เกาหลี-33-ซอรัคซาน

พระพุทธรูปบนโขดหิน

เกาหลี-34-ซอรัคซาน

อลังการมาก ใบไม้เปลี่ยนสี ของจริงก็สีสดแบบในรูปเลย

หลังจากผ่าน Heundeul Bawi Rock มาแล้ว เส้นทางต่อจากนี้จะเป็นช่วง 1 กิโลเมตรสุดท้ายที่ขึ้นไปยังยอดเขา  Ulsanbawi Rock ทางจะชันมาก แต่ถึงทางจะชันก็ยังคงทำไว้ทางเดินค่อนข้างดี มีบันไดให้เดินไปเรื่อยๆ ข้างทางก็เป็นวิวใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ แค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้ว

เกาหลี-35-ซอรัคซาน

ดูจากทางเริ่มชันแล้ว แต่ก็ยังมีบันไดให้ปีน

เกาหลี-36-ซอรัคซาน

เหลืออีก 800 เมตร

เกาหลี-37-ซอรัคซาน

มองเห็นสันเขาอยู่ไมไกลแล้ว

เกาหลี-38-ซอรัคซาน

วิวสันเขาทอดเป็นแนวยาว ตัดกับต้นไม้ด้านล่าง

เกาหลี-39-ซอรัคซาน

เหลืออีก 400 เมตร ทางเดินเริ่มยากขึ้นและก็ชันมาก

เกาหลี-40-ซอรัคซาน

มีคนแอบมาแวะพักเหนื่อยกัน

 

จากจุดตรงนี้ประมาณ 300 เมตรสุดท้ายจะโหดที่สุด ชันที่สุด แต่ทางก็เป็นบันไดเดินขึ้นไปเรื่อยๆ ลัดเลาะสันเขาขึ้นไป ตรงช่วงนี้ให้ค่อยๆเดินขึ้น ถ้าใครเหนื่อยหรือหอบให้หยุดแวะพักก่อน เพราะอากาศด้านบนจะเบาบาง ออกซิเจนน้อยกว่าด้านล่าง ถ้าใครกลัวความสูงก็อย่าหันหลังกลับมามองบ่อย เพราะมันหวาดเสียวมาก บันไดเหล็กเหมื่อนยื่นออกมาจากเขาหินเลย

เกาหลี-41-ซอรัคซาน

ทางขึ้นสู่ยอดเขา

เกาหลี-42-ซอรัคซาน

บันไดเลี้ยวไปเลี้ยวมา

เกาหลี-43-ซอรัคซาน

มองย้อนกลับลงไปด้านล่าง วิวสวยมาก และก็เสียวมาก

เกาหลี-44-ซอรัคซาน

เกือบถึงยอดเขาแล้ว

 

หลังจากปีนบันไดมาด้วยความลำบาก เราก็มาถึงยอดเขา  Ulsanbawi Rock จนได้ ด้านบนจะมีทางขึ้นไปบนยอด 2 จุด จุดที่ 1 จะมองเห็นจากในรูปด้านล่างนี้ ส่วนจุดที่ 2 คือจุดที่ยืนถ่ายรูปอยู่ บนยอดเขานั้นจะมีรั้วเหล็กเตี้ยๆไม่สูงมากกั้นอยู่ตรงขอบ ตอนที่ขึ้นมายืนช่วงแรกๆนั้นอาจจะยังกลัวอยู่ ต้องรอให้ร่างกายปรับสถาพซัก 5-10 นาทีก็จะเริ่มชิน ตอนแรกยืนตรงๆไม่ได้เลย ต้องเหมือนย่อตัว+คลานไปถ่ายรูป มันหวาดเสียวมาก มองไปด้านข้างนี้เหมือนเป็นเหวไม่มีอะไรรองรับอยู่ข้างล่างเลย แต่พอเริ่มชินก็เดินไปเดินมาได้ปกติ

เกาหลี-45-ซอรัคซาน

วิวบนยอดเขา Ulsanbawi Rock

เกาหลี-46-ซอรัคซาน

เขาที่นี่เป็นเขาหิน รอบข้างไม่มีต้นไม้ เหมือนสูงเลยต้นไม้ขึ้นมาพอสมควร

เกาหลี-47-ซอรัคซาน

บนยอดเขาจุดที่ 2 มีร้านขายของอยู่ เจ้าของร้านที่นี่ก็ใจดีอาสาเป็นช่างกล้องให้ด้วย น่ารักมาก

เกาหลี-48-ซอรัคซาน

วิวใกล้ๆของยอดเขาจุดที่ 1 ซึ่งจะอยู่เตี้ยกว่า

เกาหลี-49-ซอรัคซาน

มุมนี้มาอยู่บนยอดเขาจุดที่ 1 แล้ว

เกาหลี-50-ซอรัคซาน

ถ่ายย้อนกลับไปยอดเขาจุดที่ 2

เกาหลี-51-ซอรัคซาน

ระหว่างทางกลับเจอกระรอกน้อย ลายสวยเชียว

เกาหลี-52-ซอรัคซาน

รูปสุดท้ายกับใบไม้เปลี่ยนสีของซอรัคซาน

กว่าจะเดินกลับมาถึงด้านล่างก็เย็นพอดี ประมาณ 6 โมงเย็น ที่เกาหลีเริ่มมืดแล้ว จากนั้นก็ขับรถไปที่โรงแรมเลย วันนี้นอนตรงเชิงเขาโอแดซาน Odaesan โรงแรมนี้บรรยากาศดีอยู่กลางธรรมชาติเลย เสียดายที่ไปถึงค่ำแล้วเลยไม่ได้เดินเล่นชมสวนของโรงแรม Kensington Flora Hotel Pyeongchang Tel. 033-330-5000, GPS 37.688850, 128.597573

มาถึงโรงแกรมก็ทานข้าวเย็นกันเลยเพราะครัวใกล้ปิดแล้ว วันนี้สั่งหม้อไฟเกาหลีมากินกัน คล้ายกับสุกี้ญี่ปุ่นแต่เหมือนน้ำซุปจะเข้มข้นกว่า จำชื่อภาษาเกาหลีไม่ได้ เป็นเนื้อวัวต้มกับผักต่างๆและก็มีวุ้นเส้นเกาหลีด้วย รสชาติอร่อยใช้ได้เลยแหล่ะ

อาหารเย็นที่โรงแรม

อาหารเย็นที่โรงแรม

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

เรื่องท่องเที่ยวเกาหลีที่กำลังฮิต