เช้านี้ตื่นมาอากาศหนาวมาก มีฝนตกปรอยๆลงมาตลอด พอเปิดระเบียงห้องพักออกมาก็เห็นวิวในรูปด้านล่างนี้เลย โรงแรม Kensington Flora Hotel Pyeongchang บริเวณรอบๆของโรงแรมจัดเป็นสวนสไตล์ยุโรป มีสระน้ำพุอยู่ด้านข้าง เนื่องจากที่นี่ตั้งอยู่ใกล้กับเชิงเขา รอบด้านก็จะมองเห็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ช่วงที่ไปพักนี้ใบไม้เปลี่ยนสีกำลังสวยเลย บรรยากาศฟินมาก! แถมภายในสวนยังสามารถลงไปเดินเล่นถ่ายรูปได้
วิวจากห้องพัก มองเห็นทั้งสวนของโรงแรมและหุบเขา ตอนเช้าๆมีหมอกจางๆลอยอยู่บริเวณยอดเขาด้วย
ใบไม้เปลี่ยนสีทั้งสวนเลย
สวนโซนนี้จะอยู่อีกฝั่งของโรงแรม จากห้องพักจะมองมาไม่เห็น เขาทำเป็นอุโมงค์ต้นไม้ แต่เหมือนต้นไม้ยังไม่โตมาก ถ้าต้นใหญ่แล้วน่าจะสวยกว่านี้ และด้านข้างอุโมงค์จะมีลำธารด้วย บรรยากาศเหมือนไปเที่ยวยุโรปเลย
อุโมงค์ต้นแป๊ะก๊วย
มุมลำธารและสะพานข้ามน้ำ
สระน้ำในสวน
สวนเลขาคณิต
แล้วก็รีบเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม พอแวะทานข้าวเช้าเสร็จก็ขับขึ้นไปที่อุทยานแห่งชาติโอแดซานกันเลย วันนี้ตามโปรแกรมที่วางไว้ก็ตั้งใจว่าจะเดินเขากัน ซึ่งระหว่างทางไปยังยอดเขานั้นจะมีวัดประมาณ 3-4 แห่งให้แวะเที่ยวและพักเหนื่อยไปเรื่อยๆ จากโรงแรมก็ประมาณ 30 นาทีก็ถึงทางขึ้นเขาโอแดซาน แต่พอขับรถออกมาได้แป๊ปเดียวเท่านั้นก็เห็นวัดซึ่งมีรถจอดและมีคนเที่ยวค่อนข้างเยอะ วัดก็สวยเพราะเหมือนเป็นวัดที่อยู่กลางเขาเลย และมีธารน้ำไหลผ่านด้วย ก็เลยจอดรถแวะลงไปเที่ยวกันก่อน
วัดนี้ชื่อว่า วัดวอลจองซา (Woljeongsa Temple) เป็นวัดที่สวยงามท่ามกลางบรรยากาศหุบเขาและใบไม้เปลี่ยนสี มีลำธารไหลผ่านขั้นระหว่างถนนเส้นหลักและตัววัด เป็นหนึ่งในวัดหลักแห่งที่ 4 ของศาสนาพุทธนิกายโจเกจงในจังหวัดคังวอนโด และเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในสมัยราชวงศ์ชิลลา
พิกัด Tel.:033-339-6800 ,GPS: 37.731653, 128.592526
ลำธารหน้าวัดวอลจองซา
หลังจากจอดรถแล้วก็เดินมาข้ามสะพานหินเพื่อเข้าไปยังตัววัด ที่หัวสะพานจะมีรูปปั้นสัตว์ต่างๆตั้งอยู่บนด้านบน ซึ่งเสาแต่ละต้นก็จะมีรูปปั้นสัตว์แตกต่างกัน พอเดินเข้าไปด้านในวัดแล้วจะเป็นลานกว้างๆ อยู่ท่ามกลางป่าสนที่ตอนนี้ใบไม้บนภูเขากำลังเปลี่ยนสีสวยมาก ต้นสนยังคงเป็นสีเขียวเข้มแต่ต้นไม้รอบด้านส่วนใหญ่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองและสีส้ม บางต้นก็เป็นสีแดง
สะพานเดินข้ามไปยังวัด
ป้ายบอกแผนที่เที่ยวบริเวณโอแดซาน
ลานด้านในวัด
เดินชมวัดมาเรื่อยๆ โซนเกือบด้านในสุดของวัดจะเป็นโซนบ้านพัก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถจองที่พักและมาค้างคืนได้ บ้านพักก็น่ารักมากเป็นบ้านทรงเกาหลีโบราณตกแต่งด้วยไม้สนสีอ่อน บางส่วนของบริเวณที่พักจะมีป้ายว่าห้ามเดินเข้าไป แต่บางส่วนก็เดินชมได้แต่ไม่ควรส่งเสียงดัง เพราะจะรบกวนผู้ที่มาพัก
ที่พักในวัดสามารถนอนค้างคืนได้
บ้านเกาหลีน่าพักมากๆ
สีของอาคารวัดตกแต่งไว้สวยงาม
หลังคาทรงเกาหลีโบราณ
จากนั้นก็ขับรถขึ้นไปยังอุทยานแห่งชาติโอแดซาน Odaesan national park โดยปกติจะเต็มไปด้วยป่าสนที่ขึ้นอยู่อย่างหนาทึบ แต่ช่วงที่ไปนี้เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เลยไม่ได้เห็นป่าสนเท่าไหร่ เมื่อขับรถขึ้นสูงไปเรื่อยๆก็จะเห็นใบไม้แดงน้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากด้านบนเขาอากาศจะหนาวกว่าด้านล่าง ต้นไม้จึงเปลี่ยนสีก่อนและก็ร่วงก่อน พอขึ้นไปถึงที่จอดรถด้านบนก็ล่วงไปเยอะแล้ว แต่ก็พอมีต้นที่ยังแดงเหลืออยู่บ้าง
พิกัด Tel.: 033-332-6666, GPS 37.787445, 128.566848
ใบไม้ร่วงเยอะแล้ว
ทางเดินลัดเลาะไปเส้นทางเดินป่า
พื้นดินเต็มไปด้วยใบไม้แดง
หลังจากเดินมาซักแป๊ปนึงก็มาถึงวัดซังวอนซา Sangwonsa Temple วัดนี้อยู่บนเนินเขา ต้องเดินขึ้นบันไดไปอย่างในรูป
วัดซังวอนซา
กระรอกน้อย ริมทางเดิน
พระพุทธรูปหินแกะสลัก
ด้านในของวัดซังวอนซาเมื่อขึ้นมาถึง
อาคารหลักของวัด
น้ำศักดิ์สิทธิ์
พอเที่ยววัดเสร็จก็เดินไปเส้นทางปีนเขา แต่พอไปถึงทางขึ้นแล้วก็เปลี่ยนใจเดินกลับ ไม่ได้ขึ้นไปยังยอดเขา เนื่องจากดูแล้วทางค่อนข้างชัน เลยก็ไปเที่ยวต่อที่กันที่วัด Guryongsa temple ระหว่างทางที่ขับรถไปพอเห็นจุดไหนใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆก็จะแวะจอดรถและลงไปถ่ายรูปเรื่อยๆ
ต้นแป๊ะก๊วย
ด้านในป่าโอแอซาน
ธานน้ำและป่าไม้เปลี่ยนสี
ทุ่งนาที่เกาหลี สีเหลืองทอง
และก็มาถึงที่วัดวัดกูรยองซา Guryongsa temple ที่อยู่ด้านในของอุทยานแห่งชาติเชียกซาน(Chiaksan National Park) อยู่ห่างจากโอแดซานประมาณ 1.30 ชั่วโมง ด้านหน้าของทางเดินเข้าวัดจะมีซุ้มขายอาหารและของกินเป็นทางยาว หลังจากพ้นโซนของกินและเดินต่อไปซักระยะก็จะถึงทางเข้าวัด ที่วัดนี้นอกจากจะมีวัดที่สวยแล้ว ด้านหลังของวัดยังมีน้ำตกเล็กๆอีกด้วย และถ้าไปช่วงนี้ยิ่งสวยขึ้นไปอีกเพราะที่น้ำตกนั้นจะเห็นกิ่นของใบไม้แดงยื่นออกไปที่น้ำตก และต่อจากน้ำตกก็จะมีสะพานข้ามลำธาร เป็นเส้นทางเดินป่าไปยังน้ำตกอีกที่นึง
ร้านขายของด้านหน้า
ดอกอะไรไม่รู้สีแดง ตัดกับสีเหลืองของใบแป๊ะก๊วย
แผนที่วัด
ยักษ์เฝ้าประตูวัด
ศาลาวัด
บริเวณวัดตกแต่งด้วยดอกไม้หน้าหนาว
เต่าน้ำพุ
น้ำตกสายเล็กๆ
ฉากหน้าเป็นใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ
สะพานเดินข้ามไปยังน้ำตกอีกที่หนึ่ง
ออกจากวัดก็บ่ายแก่ๆแล้ว ต้องรีบไปเที่ยวที่สุดท้ายก่อนพระอาทิตย์ตก เพราะกะเอาไว้ว่าจะไปถ่ายพระอาทิตย์ตกดินแถวทะเลสาบ Cheongpung Lake แต่ขับรถไปไม่ทันมุมที่ตั้งไว้ แต่ว่าไปไม่ทันเลยจอดแวะถ่ายข้างทางก่อน แต่กว่าจะเดินลงไปที่ริมน้ำพระอาทิตย์ก็ตกไปแล้ว เลยได้แสงสวยๆกับทุ่งดอกหญ้ามาแทน หลังจากถ่ายพระอาทิตย์ตกเสร็จแล้วก็ขับไปที่ที่ตั้งใจจะไปถ่ายพระอาทิตย์ตกในตอนแรก ก็คือที่ Cheongpung Cultural Properties ซึ่งเป็นเหมือนสวนขนาดใหญ่ด้านในมีหมู่บ้านเกาหลีโบราณและจุดชมวิวสะพาน Cheong Poong Bridge แต่พอไปถึงก็มืดหมดแล้ว สวนก็ปิดแล้วด้วย เดินไปเดินมาสักพักเห็นสะพาน Cheong Poong Bridge เปิดไฟพอดี เลยถ่ายรูปแสงไฟสวยๆของสะพานมาแทน
พิกัด Tel.: 043-647-7003 GPS: 37.002548, 128.176663
สะพาน Cheong Poong Bridge
จากนั้นก็ขับรถไฟพักที่เมือง Sangmo myeon เป็นเมืองเล็กๆใกล้กับอุทยานแห่งชาติวอรัคซาน เป็นอีกหนึ่งจุดพักค้างคืนของบรรดานักท่องเที่ยวปีนเขาที่นิยมมาพักกัน ตอนกลางคืนมีไฟถนนประดับตกแต่งไว้ทั่วทั้งเมือง ร้านค้าร้านอาหารก็มีให้เลือกค่อนข้างเยอะ ส่วนโรงแรมก็อยู่ในเมืองเลย วันนี้พักที่ The Chosun Hotel
ซุ้มถนนประดับไฟสวยงาม
แสงไฟเมื่อรถวิ่งผ่าน