Site icon คู่มือเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง – Chillout Korea

รวม 12 มรดกโลกของเกาหลีใต้ แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ ทรงคุณค่า UNESCO

เกาหลีใต้มีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติอันทรงคุณค่ามากมายหลายแห่งทั่วประเทศ โดยมีอยู่ 12 แห่งในนั้นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ซึ่งนอกจากจะน่าตื่นตาตื่นใจแล้วก็ยังเหมาะสำหรับเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเกาหลี พร้อมกับสถาปัตยกรรม ผลงานประติมากรรม และงานสร้างสรรค์ทางศิลปะที่โดดเด่นสวยงามของชาวเกาหลี ซึ่งสถานที่ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกก็จะประกอบด้วย มรดกโลกทาง วัฒนธรรม 11 แหล่ง และมรดกโลกทางธรรมชาติ 1 แห่ง รวมเป็น 12 แห่งในเกาหลีใต้

ตามมาดูกันเลยดีกว่า ว่ามรดกโลกทั้ง 12 แห่งนี้จะมีที่ไหน และน่าสนใจอย่างไรกันบ้าง

 

1. Haeinsa Temple (해인사)

วัดแฮอินซา เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในเกาหลีใต้ เป็นวัดที่มีความโดนเด่นและได้รับการ แต่งตั้งว่าเป็นเป็นโรงเรียนปรัชญาทางพุทธศาสนาแบบเซนซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อของ Chogye Order เป็นสถานที่จัดเก็บ  ‘สารานุกรมพุทธ’มีพระไตรปิฎกทำขึ้นบนไม้มากกว่า 81,000 แผ่นกล่าวได้ว่าที่นี่คือการเก็บรวบรวมพระคัมภีร์ทาง พระพุทธศาสนาที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดในโลก มีตัวอักษรฮันจามากกว่า 52  ล้านตัวและไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ อีกทั้งสถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุอันล้ำค่าที่สุดจึงสร้างสถานที่ที่คนนับถือศาสนาพุทธที่ และกลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ

ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)เมื่อปี 1995

ที่ตั้ง  Gyeongsangnam-do

การเดินทาง ขึ้นรถไฟจากสถานี Deagu Seobu Terminal ขึ้น รถไฟใต้ดินสาย  1 ลงสถานี   Seongdangmot Station ทางออกที่ 3 ขึ้นรถบัสประจำทางระหว่างเมือง intercity bus ไปลงยัง Haeinsa Temple

 

 

2. Jongmyo Shrine ()

Jongmyo-Shrine

ศาลเจ้าจงมโย เป็นสถานที่หลักสำหรับราชวงศ์โซซอนในการสักการบูชาและทำพิธีเก่าแก่ Jongmyo Jaerye ถือเป็นพิธีที่เก่าแก่โบราณ เป็นประเพณีที่มีการอนุรักษ์กันไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรีพื้นบ้าน การเต้นรำ ที่มีต้นกำเนิดมานานกว่า 500 ปีที่ผ่านมาและในช่วงเดือนพฤษภาคมจะมีการจัดงานเทศกาลวัฒนธรรมเกาหลีจะจัดขึ้นพร้อมกับงานเทศกาลมรดกทางวัฒนธรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เป็นวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์น่าสนใจของเกาหลีในอดีตที่ผ่านมา

ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)เมื่อปี 1995

ที่ตั้ง   Jongno-gu, Seoul

การเดินทาง   รถไฟใต้ดินสาย 1,3,5 ลงสถานี Jongno3(sam)-ga Station ทางออกที่ 11

หรือขึ้นรถบัสประจำทาง หมายเลข 111, 201, 260, 262, 270, 271, 721, N15, N62   Jongno 4(sa)-ga.Jongmyo Shrine Bus Stop.

 

 

3. Seokguram Grotto and Bulguksa Temple(경주 석굴암)

Seokguram and Bulguksa

ถ้ำซ็อกกูรัมและวัดพุลกุกซา  เป็นวัดที่เป็นตัวแทนของเกาหลีตั้งอยู่บนภูเขา Tohamsan เป็นวัดหินเทียมที่สร้างขึ้นด้วยหินแกรนิตถูกสร้างขึ้นมาโดย คิมแด – ซอง  (Kim Dae-Seong) ตั้งแต่ปีพ. ศ. 751  ในรัชสมัยของพระเจ้ากิ่งกยอง – ด็อค  (King Gyeong-Deok) ซึ่งใช้เวลาสร้างถึงยี่สิบปี ภายในห้องโถงใหญ่มีรูปทรงกลมมีรูปปั้น Bonjon Statue, Bodhi-sattva และสาวกของพระพุทธเจ้า เพดานกลมดูคล้ายครึ่งดวงจันทร์  ส่วนถ้ำซ็อกกูรัม สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 8 บนเนินเขาของ Mount Toham มีอนุสาวรีย์รูปปั้นพระพุทธเจ้าเป็นการสร้างขึ้นมา อย่างประณีตถือเป็นงานชิ้นเอกของศิลปะทางพุทธศาสนาถือเป็นสถาปัตยกรรมทางศาสนาที่มีความสำคัญน่าอนุรักษ์ไว้เป็นที่สุด

ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)เมื่อปี 1995

ที่ตั้ง  Gyeongsangbuk-do

การเดินทาง  จากสถานีรถประจำทาง Gyeongju Intercity/Express Bus Terminal or Gyeongju Station รถโดยสารประจำทางหมายเลข 10,11 ไปลงที่ Bulguksa Temple จาก Bulguksa Temple ใช้รถประจำทางหมายเลข 12เพื่อเดินทาง ไปยัง Seokguram Grotto ใช้เวลาเดินทาง จากวัดไปยังถ้ำเพียงแค่ 30 นาที

 

 

4. Changdeokgung Palace ( 창덕궁)

Changdeokgung-Palace

พระราชวังชางด็อกกุง เป็นพระราชวังหลักสำหรับราชวงศ์โชซอนและเป็นหนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดของของประเทศเกาหลีใต้ บริเวณพระราชวังประกอบด้วยพระราชวังอาคารพำนักของพระราชวงศ์และสวนหลังบ้าน ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับพระมหากษัตริย์ในอดีต สวนด้านหลังของพระราชวัง Changdeokgung ถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้า Taejong และเป็นที่พำนักสำหรับสมาชิกในราชวงศ์ มีต้นไม้และพืชพันธ์นานาชนิดกว่า 56,000 ชนิด อาคารที่ถูกออกแบบสร้างขึ้นมาตามรูปแบบของพระราชวังเดิม มีลักษณะที่โดดเด่น สวยงาม พื้นที่ทั้งหมดถูกปรับปรุงและบูรณะขึ้นมาแต่ยังคงกลิ่นอายรูปแบบเดิมๆเพื่อสื่อให้เห็นถึงวัฒนธรรมเกาหลีตามต้นฉบับ จึงเป็นมรดกทางประวิติศาสตร์ที่มีคุณค่ามากนั่นเอง

ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)เมื่อปี 1997

ที่ตั้ง  Jongno-gu, Seoul

การเดินทาง  รถไฟใต้ดินโซลสาย 3 ลงสถานี Anguk Station ทางออกที่ 3 เดินตรงออกจากสถานีเพียง 5 นาทีเท่านั้น

 

 

5. Hwaseong Fortress(수원 화성)

Hwaseong-Fortress

ป้อมปราการฮวาซอง ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โซซอน เพื่อเป็นที่ฝังพระศพของมกุฎราชกุมารแห่งโชซ็อนและ
พระเจ้าย็องโจ กำแพงป้อมปราการทอดยาวเป็นระยะทาง 5.52 กม มีประตูสี่ด้านและทั้งสี่ประตูหันหน้าไปทางแต่ละทิศทาง ประตู Janganmun (ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ) ประตู Paldalmun (ใต้), Changnyongmun (ตะวันออก) และ Hwaseomun (ตะวันตก) ศาลาที่ตั้งอยู่ด้านบนประตูเรียกว่า Hwahongmun  สถานที่แห่งนี้ก็จะมีการการแสดงและการจัดงานและงานต่างๆและงานเทศกาลวัฒนธรรม Suwon Hwaseong ( เฉลิมฉลองป้อมฮวาซอง ของชาวเมืองซูวอน ) จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ยังสถานที่แห่งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี

ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)เมื่อปี 1997

ที่ตั้ง  Gyeonggi-do

การเดินทาง รถไฟใต้ดินสาย ลงสถานี Suwon Station จากนั้นให้ข้นรถประจำทางต่อหมายเลข 2, 7, 7-2, 8 ไปลงป้าย Jongno 4-geori

 

 

6. Gochang, Hwasun, and Ganghwa Dolmen Sites (고창 고인돌 )

Gochang, Hwasun Ganghwa Dolmen Sites

แหล่งดอลเมนแห่งโคชัง ฮวาซุน และคังฮวา เป็นสุสานหินที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีอยู่เป็นจำนวนมาก มีลักษณะเป็นเพิงหินโบราณที่มีความแปลกตาและไม่สามารถพบเห็นได้ตามพื้นที่อื่นๆ  Dolmens เป็นอนุสาวรีย์ที่ฝังศพแบบ  megalithic ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นในยุคก่อนคริสศักราชและวัฒนธรรมคาดว่าราวพันปีก่อน  ลักษณะประกอบด้วย  แผ่นหินปูพื้นไม่เกิน 2 แผ่นขึ้นไปซึ่งเป็นแผ่นหินขนาดใหญ่เป็นที่แปลกตามากๆ  สถานที่แห่งนี้จะอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาหลีใต้ บริเวณ  Gochang, Hwasun และ Gangwa และได้มีการอนุรักษ์สุสานหินไว้อย่างดีกว่า 1,000 แห่งทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดอีกแห่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)เมื่อปี 2000

ที่ตั้ง Jeollabuk-do

การเดินทาง  จากสถานีรถประจำทาง Gochang Bus Terminal  ใช้บริการรถประจำทางสาย  Jungnim ลงที่พิพิธภัณฑ์ Gochang Dolmen Museum

 

 

7. Gyeongju Historic Area(경주역사유적지)

Gyeongju Historic Area

พื้นที่ประวัติศาสตร์คย็องจู  เป็นมรดกทางวัฒนธรรมถือเป็นพื้นที่ที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของเมือง Gyeongju ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักร Silla มีประติมากรรมเจดีย์แบบนูนและซากของวัดและพระราชวังจากวัฒนธรรมของราชวงศ์ซิลลาช่วงระหว่างศตวรรษที่ 7 และศตวรรษที่ 10 อนุเสาวรีย์ที่จัดแสดงเหล่านี้มีความสำคัญเป็นพิเศษเพื่อสื่อให้ห็นถึงการพัฒนาของพุทธศาสนาและสถาปัตยกรรมฆราวาสในเกาหลี พื้นที่ประวัติศาสตร์ของ Gyeongju สามารถแบ่งออกเป็น 5 ส่วนหลักๆ ที่สำคัญ และมีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมทั้งหมด 52 แห่งที่จดทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก

ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)เมื่อปี  2000

ที่ตั้ง  Gyeongsangbuk-do

การเดินทาง  จาก Dong Seoul Terminal ขึ้นรถบัสประจำทางไปยัง  Gyeongju  Express Bus Termina ขึ้นแท็กซี่ไปลง Gyeongju Historic Area 

 

 

8. Jeju Volcanic Island and Lava Tubes(제주 화산섬 용암 동굴)

Jeju-Volcanic-Lava

เกาะภูเขาไฟเชจูและอุโมงค์ลาวา เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในมุมมองของภูเขาไฟและลาวาพื้นที่รวมทั้งคุณสมบัติทางธรณีวิทยาที่โดดเด่นและคุณสมบัติพิเศษที่เป็นที่อยู่อาศัยหลากหลาย ของสัตว์ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ เกาะ Jeju Volcanic Island และ Lava Tubes สถานที่เที่ยวภายในก็จะมี Mount Hallasan Natural Reserve, Seongsan Ilchulbong Peak และGeomunoreum Lava Tube System สถานที่เที่ยวที่เรียกว่าอันซีนมากๆมีความสวยงามทัศนียภาพที่สวยที่สุดเลยก็ว่าได้ มีมีน้ำตกและทะเลสาบที่เต็มไปด้วยปล่องภูเขาไฟ ถือเป็นความงามจากธรรมชาติที่น่าบันทึกจารึกไว้ให้คนได้จดจำจริงๆ

ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)เมื่อ 2007

ที่ตั้ง Jeju-do

การเดินทางไป Mount Hallasan Natural Reserve ขึ้นรถบัสประจำทางหมายเลข 740 ไปลงป้าย Eorimok Trail Entrance Bus Stop.(รถประจำทางสาย Jeju Intercity Bus Terminal – Eorimok)

หรือขึ้นถประจำทางหมายเลข 781,781-1 ไปลงป้าย Seongpanak Bus Stop. (รถประจำทางสาย Jeju Intercity Bus Terminal – Seongpanak)

การเดินทางไป Seongsan Ilchulbong Peak  จากสถานีรถประจำทาง Jeju Intercity Bus Terminal ขึ้นรถประจำทางไปยัง Seongsalliipgu Bus Stop รถบัสประจำทางสาย Dongilju bus bound for Seongsan เดินจากสถานีไปประมาณ 1 กิโลเมตร

การเดินทางไป Geomunoreum Lava Tube System จาก Jeju International Airport, ขึ้นรถบัสไปยังเพียซอน(Pyoseon )และลงที่ Seonheul 2-ri

 

 

9. Royal Tombs of the Joseon Dynasty (조선의 왕릉 )

Royal-Tombs-Joseon

สุสานหลวงราชวงศ์โชซ็อน สุสานหลวงของเกาหลีเป็นสถานที่มรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดีซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับประวัติศาสตร์ของเกาหลีในกว่า 500  ปี สุสานฝังอยู่กับกษัตริย์และราชินีรวมถึงพระมหากษัตริย์ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระราชาหรือราชินีแห่งราชวงศ์โชซอน สุสานราชวงศ์ราชวงศ์ทั่วโลกได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีตลอดมาหลายร้อยปี เพื่อเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึงและเคารพความงามและความสำคัญทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวเกาหลีนั่นเอง

ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)เมื่อ 2009

ที่ตั้ง Gangwon-do

การเดินทาง  จากสถานีขนส่ง Seoul Express Bus Terminal ใช้รถบัสประจำทางไปยัง Yeoju Bus Terminal แล้วให้ขึ้นรถสาย 965-1 ไปลงยัง Hyoreung bus stop

 

 

10. Historic Villages of Korea: Hahoe and Yangdong(하회·양동 역사마을)

Historic-Hahoe-Yangdong

หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮาฮเวและยังดง เป็นหมู่บ้านเกาหลีโบราณที่มีมากว่า 600 ปี และในปัจจุบันก็ยังคงมีการอนุรักษ์ทุกอย่างไว้คงเดิม และที่น่าสนใจนั่นก็คือ บ้านจะทำจากดินเผาหินและฟาง และในบ้านทุกหลังที่ด้านหลังของบ้านเป็นศาลเจ้าครอบครัว ในสมัยราชวงศ์โชซอนได้เห็นว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างศาลเจ้าที่บ้าน หมู่บ้านแห่งนี้มีทัศนียภาพที่สวยงามถูกบดบังด้วยภูเขาป่าและหันหน้าออกสู่แม่น้ำภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยภูเขาต้นไม้และแม่น้ำน้ำรอบหมู่บ้านพื้นที่อุดมสมบูรณ์คนในหมู่บ้านทำอาชีพทำเกษตรเป็นหลัก สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมขงจื้อที่โดดเด่นของชนชั้นสูงของช่วงต้นของราชวงศ์โชซอนรวมทั้งยังมีการอนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิมที่มีมายาวนานให้ยังคงอยู่  นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งมรดกโลกที่มีความน่าสนใจและวัฒนธรรมพื้นบ้านแบบดั้งเดิมที่เสน่ห์น่าหลงไหลเป็นอย่างมาก สถานที่แห่งนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเกาหลีในหลายๆเรื่อง อีกด้วย

ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)เมื่อ 2010

ที่ตั้ง  Gyeongsangbuk-do

การเดินทาง  นั่งรถบัสประจำทางสาย 46 จากสถานี Andong  Bus Terminal  ไปลงยัง  Historic Villages of Korea: Hahoe and Yangdong

 

 

11. Namhansanseong (남한산성)

Namhansanseong

นัมฮันซันซ็อง ป้อมปราการที่ตั้งอยู่บนภูเขา Namhansan Mountain ภูเขาที่มีชื่อเสียงในการเป็นที่สวยงามมากตลอดทั้งปี ในฤดูใบไม้ผลิต้นกระถินเทศเติบโตหนาในช่วงฤดูร้อนป่าสีเขียวครอบคลุมทั้งภูเขาและในฤดูใบไม้ร่วงที่คนจำนวนมาก เข้าชมความสวยงามและสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการปีนภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยด้วยใบไม้สีแดงทั่วทั้งภูเขา นัมฮันซันซ็อง ได้ถูกบูรณะขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งเพราะถูกทำลายจากสงครามแย่งชิงราชวงศ์ในสมัยก่อน แต่ก็ยังคงรักษารูปแบบเดิมดั้งเดิมไว้ให้คงอยู่จนถึงปัจจุบันนี้

ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)เมื่อ 2014

ที่ตั้ง  Gyeonggi-do

การเดินทาง รถไฟใต้ดินสาย  8 ลงสถานี Sanseong Station จากนั้นให้ ขึ้นรถบัสหมายเลข 9  และลงที่ป้ายรถเมล์ Namhansanseong bus stop

 

 

12. Baekje Historic Areas (백제 역사 지구)

Baekje-Historic-Areas

เขตพื้นที่ประวัติศาสตร์ของอาณาจักรแพ็กเจ ตั้งอยู่ในเขตภาคตะวันตกตอนกลางของประเทศสาธารณรัฐเกาหลีบริเวณ Baekje Historic ประกอบด้วยแหล่งโบราณคดี 8 แห่งรวมถึงป้อมปราการ Gongsanseong และสุสานหลวงที่ Songsan-ri ซึ่งเป็นหนึ่งในสามอาณาจักรที่เก่าแก่ที่สุดในคาบสมุทรเกาหลีตั้งแต่ยุคที่ชาวเกาหลีเจอจุดตัดของเทคโนโลยีและศาสนา (พุทธศาสนา) การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและศิลปะ ระหว่างอาณาจักรเอเชียตะวันออกโบราณในเกาหลีจีนและญี่ปุ่น

เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจและมีมรดกทางประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรมหลงเหลืออยู่ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา อย่าง ป้อมปราการ Busosanseong ก่อนหน้านี้คือเมือง ซึ่งเคยเป็นเมือง Sabiseong  ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของ Baekjeg เมื่อ 123 ปีก่อนที่อาณาจักรจะถูกโค่นล้มก็ยังคงมีการบูรณะรักษาไว้จนถึงปัจจุบัน  ถือเป็นการรักษาสมบัติโบราณของประวัติศาสตร์ Baekje ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตโบราณของเกาหลี พระราชวังและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันงดงามให้ยังคงอยู่ในความทรงจำของชาวเกาหลีจนได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจน่าไปเยือน

ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)เมื่อ 2015

ที่ตั้ง Chungcheongnam-do

การเดินทาง จากสถานีขนส่ง Seoul Nambu Bus Terminal ใช้รถบัสระหว่างเมือง Intercity Bus Terminal  ไปยัง  Baekje History & Culture Museum

Exit mobile version