รวบข้อมูล Korea Rail Pass และ รถไฟความสูงเกาหลี KTX
![KR Pass และ รถไฟความสูงเกาหลี KTX](https://www.chilloutkorea.com/wp-content/uploads/2017/01/KTX-korea-Express-Cover-750x400.jpg)
Korea Express Train หรือ KTX คือระบบรถไฟความเร็วสูงของประเทศเกาหลีใต้ ที่มีความเร็วสูงถึง 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง คล้ายกับชิงกันเซนของญี่ปุ่น ที่ทำให้การเดินทางไปตามเมืองต่างๆหรือจังหวัดไกลๆนั้นสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยสามารถลดระยะเวลาในการเดินทางลงได้เกือบครึ่งหนึ่งของรถไฟแบบปกติ เช่น จากโซลไปปูซานถ้าเป็นรถไฟธรรมดาจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็น KTX จะใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง เป็นต้น แต่ก็ต้องแลกด้วยราคาที่แพงกว่าแบบปกติถึง 2 เท่าเช่นกัน แต่ทางรัฐบาลเกาหลีก็ได้มีการออกตั๋วที่เรียกว่า KR Pass ซึ่งจะเป็นส่วนลดพิเศษให้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น
ในปัจจุบัน(2017) รถไฟด่วน KTX มีให้บริการอยู่ทั้งหมด 4 สาย ซึ่งจะเริ่มต้นจากเมือง Incheon ผ่านโซล ที่สถานีโซล(Seoul Station) และ Yongsan Station จากนั้นก็มุ่งหน้าลงใต้ โดยจะมีสถานีปลายทางที่แตกต่างกันไปดังนี้
1. สาย Gyeongbu Line – สายสีแดงเป็นสาย KTX แรกๆที่วิ่งยาวตั้งแต่ Incheon ผ่าน โซล ไปจนถึงเมืองปูซาน(Busan) ซึ่งจากรูปเส้นทางการวิ่ง จะเห็นว่ามีปลายทางอยู่ 2 ที่ด้วยกันคือ สถานีปูซาน(Busan Station) และสถานี Pohang และสายที่ไปปูซานยังมีอีก 2 สายที่ผ่านเมือง Gupo กับ เมือง Ulsan อย่างไรก็ตามสายนี้เป็นสายที่รถไฟออกมากที่สุดแทบจะทุกๆ ครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว
![KTX Gyeongbu Line สายสีแดงไปปูซาน](https://www.chilloutkorea.com/wp-content/uploads/2017/01/KTX-Gyeongbu-Line.jpg)
KTX Gyeongbu Line สายสีแดงไปปูซาน
โดยสายที่ไปปูซานนั้นจะยังสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบได้อีกตามนี้
1.1 สายที่ขึ้นต้นด้วยเลข 1 – สายนี้จะเป็นสายที่ใช้เวลา ในการเดินทางเร็วที่สุด, มีรอบรถวิ่งถี่ที่สุด และก็แพงที่สุด ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง 37 นาที – 2 ชั่วโมง 44 นาที
ขาไปรถวิ่งตั้งแต่ 05.15-23.00 ,ขากลับ 05.00-22.20 รถขากลับเที่ยวสุดท้ายจะกลับถึงโซลในเวลา 00.59 น ซึ่งในช่วงเวลานั้นรถไฟใต้ดินหมดแล้วอาจจะต้องใช้บริการแท็กซี่หรือรถบัสรอบดึกในการกลับไปยังที่พักแทน
ค่าโดยสารที่นั่งชั้นประหยัด ผู้ใหญ่ 59,800 วอน ,เด็กอายุ 4-12 ปี 29,900 วอน *(ราคาต่อเที่ยว)
1.2 สายที่ขึ้นต้นด้วยเลข 3 – สายนี้จะเป็นสายที่มีเที่ยวรถต่อวันน้อยกว่าสายที่ขึ้นต้นด้วยเลข 1 และจะใช้เวลาเดินทางนานกว่าเล็กน้อย โดยจะแบ่งเป็นสายย่อยดังนี้
– สายย่อยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 30, 31 ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง สายนี้จะมีรถวิ่งวันละ 6 เที่ยว ขาไปมีเที่ยวรถตั้งแต่ 09.55-20.40
ส่วนขากลับมีเที่ยวรถตั้งแต่ 06.10-20.55
ค่ารถโดยสารชั้นประหยัด ผู้ใหญ่ 53,900 วอน, เด็ก อายุ 4-12 ปี 26,900 วอน *(ราคาต่อเที่ยว)
– สายที่ขึ้นต้นด้วยเลข 35 ใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง 10 นาที -3 ชั่วโมง 21 นาที แล้วแต่เที่ยว สายนี้จะมีรถวิ่งวันละ 5 เที่ยวซึ่งเป็นสายที่มีราคาถูกที่สุดแต่ก็ใช้เวลาในการเดินทางนานที่สุด
ขาไปมีเที่ยวรถตั้งแต่ 08.00 – 18.40 ขากลับ มีเที่ยวรถตั้งแต่ 10.15 – 20.20
ค่าโดยสารที่นั่งชั้นประหยัด ผู้ใหญ่ 48,800 วอน, เด็กอายุ 4-12 ปี ราคา 24,400 วอน *(ราคาต่อเที่ยว)
2. สาย Honam Line สายสีน้ำเงิน ที่มีสถานีปลายทางที่เมือง Mokpo เมืองใหญ่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเกาหลี
![KTX Honam Line](https://www.chilloutkorea.com/wp-content/uploads/2017/01/KTX-Honam-Line.jpg)
KTX Honam Line
3. สาย Gyeongjeon Line สายสีเหลือง มีสถานีปลายทางที่เมือง Jinju ซึ่งอยู่ติดกับเมืองปูซาน
![KTX Gyeongjeon Line](https://www.chilloutkorea.com/wp-content/uploads/2017/01/KTX-Gyeongjeon-Line.jpg)
KTX Gyeongjeon Line
4. สาย Jeolla Line สายสีม่วง สายสีม่วง มีสถานีปลายทางที่ YeosuExpo
![KTX Jeolla Line](https://www.chilloutkorea.com/wp-content/uploads/2017/01/KTX-Jeolla-Line.jpg)
KTX Jeolla Line
การเช็คตารางเดินรถ และการจองล่วงหน้า
สามารถเข้าไปที่เว็บนี้ได้เลย www.letskorail.com โดยเราสามารถเช็คตารางเวลารถไฟแต่ละเที่ยวได้ หรือจองตั๋ว KTX แบบเป็นเที่ยวๆเลยก็ได้ และยังสามารถใช้จองตั๋ว KR Pass ได้เลยด้วย
ตั๋ว KR Pass
![ตัวอย่าง ตั๋ว KR Pass](https://www.chilloutkorea.com/wp-content/uploads/2017/01/KR-Pass-Example.jpg)
ตัวอย่าง ตั๋ว KR Pass
ตั๋ว KR PASS คือ ตั๋วเดินทางแบบเหมาทั้งวันใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ซึ่งตั๋วสามารถใช้บริการได้กับรถไฟทุกประเภทรวมทั้ง KTX ด้วย แต่ยกเว้นรถไฟใต้ดินตามเมืองต่างๆเท่านั้น ภายในจำนวนวันของตั๋วที่เราซื้อ ซึ่งตั๋วจะหมดอายุเวลา 24.00 ของวันที่กำหนด
เนื่องจากการใช้บริการ รถไฟความเร็วสูง KTX ค่าโดยสารค่อนข้างจะสูง ดังนั้นหากอยากจะประหยัดแนะนำให้ซื้อ KR PASS มาเพื่อใช้ทั้งขาไปและขากลับจะคุ้มกว่า ซึ่งสามารถใช้แทนการซื้อตั๋วแบบเป็นเที่ยวๆสำหรับ ขาไปและขากลับภายใน 1 วันได้เลย เช่น ถ้าเราไปกลับปูซานภายใน 1 วัน เราจะเสียค่าตั๋วประมาณ 110,000 วอน(ขึ้นอยู่กับขบวนที่เราขึ้น) แต่ถ้าซื้อ KR Pass แบบ 1 day pass เราจะจ่ายแค่ 81,000 วอนเท่านั้น ประหยัดไปได้ถึง 3 หมื่นวอนเลยทีเดียว
ประเภทของตั๋ว KR Pass มีให้เลือก ดังนี้
แบบใช้ต่อเนื่องกันตามจำนวนวัน มีให้เลือก 4 แบบ คือ แบบ 2 วัน, แบบ 3 วัน, แบบ 4 วัน และแบบ 5 วัน
ตั๋วแบบ 2 day pass – ผู้ใหญ่ 131,000 วอน, เด็ก 66,000 วอน, แบบประหยัด 121,000 วอน, นักเรียน 105,000 วอน (แบบเลือกวัน)
ตั๋วแบบ 3 day pass – ผู้ใหญ่ 165,000 วอน, เด็ก 83,000 วอน, แบบประหยัด 155,000 วอน, นักเรียน 132,000 วอน (แบบต่อเนื่อง)
ตั๋วแบบ 4 day pass – ผู้ใหญ่ 234,000 วอน, เด็ก 117,000 วอน, แบบประหยัด 224,000 วอน, นักเรียน 187,000วอน วอน (แบบเลือกวัน)
ตั๋วแบบ 5 day pass – ผู้ใหญ่ 244,000 วอน, เด็ก 122,000 วอน, แบบประหยัด 234,000 วอน, นักเรียน 195,000 วอน (แบบต่อเนื่อง)
*** ตั๋วราคาประหยัด คือตั๋วที่จะต้องเดินทางตั้งแต่ 2 ถึง 4 คน จะประหยัดมากกว่าเดินทางคนเดียว
*** หากมีการเดินทางตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ให้ติดต่อซื้อตั๋วในราคา Group ซึ่งจะได้ตั๋วในราคาที่ถูกลงไปอีก
*** ส่วนนักเรียนและนักศึกษา ก่อนเดินทางต้องไปทำบัตรนักเรียนนักศึกษาแบบนานาชาติมาก่อน เช่น บัตร ISIC และต้องมีอายุ 13-25 ปีเท่านั้นจึงจะสามารถจองตั๋วราคานักเรียนได้
***เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 4 ปี เดินทางฟรี
การใช้งานตั๋ว KR Pass
สรุปแบบเร็วๆก็คือ จองที่หน้าเว็บ -> ไปออกตั๋วจริง -> จะใช้งาน KTX เที่ยวไหนก็ออกตั๋วของเที่ยวนั้นอีกที
1. อันดับแรกคือการเข้าไปจองตั๋ว KR Pass ก่อน โดยไปที่ www.letskorail.com และต้องชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น บัตรเดบิตไม่สามารถใช้ในการจองตั๋วนี้ได้ และหลังจากการจองจะต้องไปออกตั๋วจริงที่เกาหลี ภายใน 180 วันนับจากวันที่จอง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ จองตั๋วล่วงหน้าได้ไม่เกิน 180 วันนั่นเอง เมื่อมีการกรอกหมายเลขบัตรเครดิตแล้ว ระบบจะทำการจำหมายเลขไว้ และกันเงินไว้เท่านั้น ไม่มีการเรียกเก็บเงินแต่อย่างใด สามารถยกเลิกได้เลยทันที ไม่มีค่าปรับอะไรเพิ่มเติม เมื่อจองทางหน้าเว็บไปแล้ว ระบบจะส่ง Email ที่มี E-Ticket มาให้ ก็ให้เราปริ้นออกมาเตรียมเอาไปเกาหลีด้วย
2. เมื่อไปถึงเกาหลี หรือถึงเวลาที่ต้องการใช้ตั๋ว KR Pass ก็ให้นำ E-Ticket, บัตรเครดิต และพาสปอตไปให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการรูดเพื่อชำระเงินตามเค้าเตอร์ที่สถานีรถไฟต่างๆทุกสถานี ที่สนามบินอินชอนก็มี แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะออกเป็นบัตร KR Pass ตัวจริงมาให้เรา ซึ่งบัตรเครดิตจะต้องเป็นของผู้เดินทางคนใดคนหนึ่งเท่านั้น(ไม่มีข้อยกเว้น) หลังจากได้ตั๋ว KR Pass มาแล้ว จะต้องเริ่มใช้งานภายใน 30 วันเท่านั้น
3. หลังจากได้ KR Pass มาแล้ว เวลาจะใช้งาน KTX ก็ให้ไปติดต่อที่เค้าเตอร์เพื่อออกตั๋วซึ่งจะเป็นแบบระบบที่นั่งเท่านั้น ได้เลย ซึ่งในครั้งแรกที่เราออกตั๋ว KR Pass เจ้าหน้าที่อาจจะถาม วันเวลาที่ต้องการใช้เดินทาง พร้อมกับออกตั๋วมาให้เลย
![ตัวอย่างตั๋ว KTX ที่ทำการจองที่นั่งแล้ว](https://www.chilloutkorea.com/wp-content/uploads/2017/01/รูปที่1-10.jpg)
ตัวอย่างตั๋ว KTX ที่ทำการจองที่นั่งแล้ว
** KR Pass ใช้ได้ถึงเที่ยงคืนของวันที่ระบุในตั๋วเท่านั้น
** KR Pass เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น
**KR Pass ใช้ได้เฉพาะที่นั่งชั้นประหยัด ไม่สามารถใช้กับรถไฟใต้ดินหรืออื่นๆได้
![บรรยากาศภายในขบวนรถไฟ](https://www.chilloutkorea.com/wp-content/uploads/2017/01/รูปที่2-10.jpg)
บรรยากาศภายในขบวนรถไฟ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในขบวนรถไฟ
– ห้องน้ำ
– แอร์คอนดิชั่น
– ที่นั่งจะเล็กกว่าชินคันเซนของญี่ปุ่นนิดหน่อย
– ตู้เสบียงที่ขายอาหารขนมน้ำดื่ม
– เครื่องกดขนมและน้ำดื่ม