5 เทคนิคไม่ยาก…วางตัวอย่างไรให้ผ่าน ตม.เกาหลีใต้

ช่วงนี้มีข่าวคนไทยติด ตม.เกาหลีใต้ออกมาให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ หลายคนที่กำลังจะไปเที่ยวเกาหลีใต้ก็อาจกำลังกังวลคิดว่าจะไปดีไหม? จะผ่าน ตม.เกาหลีหรือเปล่า? เราขอบอกตรงนี้เลยว่าไม่ต้องกังวล แค่เตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อมแล้วมาเรียนรู้ 5 เทคนิคการวางตัวให้ผ่าน ตม.เกาหลีที่เราเอามาฝากกัน

เป็นที่รู้กันว่านอกจากเหล่าเอกสารต่างๆ เช่น ตั๋วเครื่องบินขากลับ หลักฐานการทำงาน หลักฐานการเงิน แผนการเดินทางที่จะต้องเตรียมไปเผื่อทาง ตม.ขอดูเป็นหลักฐานแล้ว การวางตัวก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่จะช่วยให้เราผ่าน ตม.กันได้แบบง่ายๆ บางทีอาจจะไม่ต้องโชว์เอกสารที่เตรียมไปเลยก็ได้ด้วยซ้ำ ไปดูกันเลยว่า 5 เทคนิคไม่ยากของเรามีอะไรบ้าง

 

1. แต่งกายสุภาพ ดูเป็นนักท่องเที่ยว

การแต่งกายเป็นหนึ่งหลักสำคัญที่ทาง ตม.จะพิจารณา ควรแต่งกายให้ดูสุภาพ เรียบง่ายและเข้ากับสภาพอากาศ ผู้หญิงไม่ควรแต่งหน้าจัด ไม่ควรแต่งชุดที่ดูโป๊จนเกินไป ส่วนผู้ชายสามารถใส่เสื้อยืด เสื้อเชิ้ตได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นใส่สูท กางเกงควรเป็นกางเกงขายาวได้จะดี การใส่รองเท้าผ้าใบและพกกล้องเป็นสองไอเท็มหลักที่จะทำให้เราดูเป็นนักท่องเที่ยวที่แท้จริง ถ้าใครมีกล้องก็สะพายคล้องคอไว้ด้วยได้เลย การแต่งตัวให้ดูเป็นนักท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นด่านแรกที่จะช่วยให้เราผ่านเข้าไปได้อย่างฉลุยเลยทีเดียว

 

2. แสดงความมั่นใจ

ความมั่นใจเป็นอีกตัวช่วยสำคัญในการวางตัวเพื่อให้ผ่าน ตม.เกาหลี หากเรามีความมั่นใจอยู่ภายในแล้ว การแสดงออกภายนอกของเรา ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า การเดิน การยืน การตอบคำถามก็จะดูสบายๆ รีแลกซ์ สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้ให้แม่นเลยก็คือ ไม่ควรกังวล เพราะความกังวลเป็นบ่อเกิดแห่งความไม่มั่นใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ผ่าน เพราะเราตั้งใจจะไปเที่ยวจริงๆ ให้คิดไว้ก่อนเลยว่าผ่านแน่ๆ แค่มั่นใจก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

 

3. ตอบคำถามให้ดี

หากใครพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็ให้ใช้วิธีเหมือนติวเตอร์เก็งข้อสอบ หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก่อนออกเดินทาง คำถามอะไรที่ทาง ตม.อาจจะทำได้บ้าง แล้วเตรียมคำตอบเอาไว้ เพราะที่จริงแล้วคำถามส่วนใหญ่ที่ ตม.จะถามก็เป็นคำถามทั่วไป ไม่ได้ตอบยากมาก ถ้าฟังไม่ทันหรือไม่เข้าใจคำถาม ควรถาม ตม.ให้พูดอีกที (คือ Again please) คำตอบที่ควรหลีกเลี่ยงคือ “I don’t know” ไม่ควรตอบเป็นอันขาด ถึงฟังไม่เข้าใจจริงๆ ก็ควรจะพูดว่า I’m a tourist หรือ I’m here for sightseeing เพื่อเป็นการยืนยันว่าเรามาเที่ยวจริงๆ แต่หากใครพอฟังออกบ้างแล้วเตรียมคำตอบมา เทคนิคของเราก็คือ อย่าตอบเร็วหรือช้าเกินไป อย่าตอบเร็วเกินไป เพราะจะดูเหมือนเราท่องมา ท่องได้แต่ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด อย่าคิดนานหรือตอบช้าเกินไป เพราะจะทำให้เราดูไม่มั่นใจและอาจเสียคะแนนได้ สำหรับคำถามหลักๆ ที่ ตม.จะชอบถามก็คือ
● จุดประสงค์ของการมาเกาหลีคืออะไร
● จะพักอยู่ในเกาหลีกี่วัน
● มาประเทศเกาหลีกับใคร
● มีแพลนจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ซึ่งในจุดนี้ อาจจะขอดูแผนการท่องเที่ยว เอกสารการจองที่พักและตั๋วเครื่องบินขากลับของเราด้วย
● ทำงานอะไร
● แลกเงินวอนมาเท่าไหร่

 

4. ยิ้มแย้มแจ่มใส สบตาเจ้าหน้าที่

ประเทศไทยเป็น Land of Smile เรายิ้มเก่งกันอยู่แล้ว ดังนั้น ยิ้มเข้าไว้ ยิ้มแย้มแจ่มใสในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องยิ้มตลอดเวลา แต่ให้ยิ้มเพื่อความเป็นมิตรและแสดงออกว่าเราผ่อนคลาย เวลาอยู่หน้า ตม. การสบตาเวลาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เป็นเรื่องสำคัญมากเลยทีเดียว ไม่ควรหลบตาเพราะจะดูมีพิรุธเหมือนเราทำอะไรผิด เทคนิคง่ายๆ ตรงนี้ก็คือ ยิ้มแย้มแจ่มใสและสบตาเจ้าหน้าที่นั่นเอง

 

5. ทำตัวสุขุม ควบคุมอารมณ์

การทำตัวสุขุม ใจเย็น ทำทุกสถานการณ์ให้เป็นเรื่องง่ายๆ สบายๆ เป็นอีกหนึ่งคะแนนสำคัญที่จะช่วยให้เราได้ยินเสียง “Welcome to Korea” จาก ตม.ได้ง่ายขึ้น ควบคุมอารมณ์และความตื่นเต้นให้อยู่หมัด ไม่ลนลาน ไม่วอกแวก ความน่าเชื่อถือจะเกิดขึ้นจากตรงนี้นี่เอง ถ้าเราดูน่าไว้ใจ ยังไง ตม.ก็ให้ผ่านเข้าประเทศแบบฉลุยแน่นอน

 

ผ่าน ตม.เกาหลีไม่ยากอย่างที่คิด หากเราเตรียมตัวให้พร้อมทั้งด้านเอกสารและการวางตัว นำเทคนิคที่เราบอกในวันนี้ไปใช้กัน รับรองว่ายังไงก็ต้องผ่านแน่ๆ สบายใจเรื่องตม. กันแล้วก็เตรียมทริปและจองตั๋วเครื่องบินเกาหลีใต้กับ Traveloka >> https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Seoul.ICN/1 ได้เลย สบายใจได้ตั๋วราคาดีๆ ไปเที่ยวเกาหลีแบบไร้กังวล

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

เรื่องท่องเที่ยวเกาหลีที่กำลังฮิต